Don’ t Wait โครงการเชิญชวนให้คน เลิกบุหรี่ เป็นโครงการที่น่าสนใจของประเทศอังกฤษ โดยผู้เสนอไอเดียนี้คือ ดร.รูธ ชาร์ร็อค (Dr. Ruth Sharrock) ที่ปรึกษาด้านระบบทางเดินหายใจจาก Gateshead Health NHS Foundation Trust ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ที่หวังว่าต้องการจะลดอัตราการเสียชีวิตของเหล่านักสูบที่ถูกบุหรี่คร่าชีวิตต่อวันสูงถึงวันละ 15 รายโดยประมาณ ซึ่งเป็นโครงการที่จะมองหาแนวทางและวิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้นักสูบสามารถ เลิกบุหรี่ ได้แบบไม่ต้องลังเล
แนวทางของโครงการ Don’ t Wait ในประเทศอังกฤษ
การช่วยเหลือของโครงการ Don’ t Wait ที่ต้องการลดจำนวนของผู้สูบบุหรี่มีแนวทางการให้ความช่วยเหลือเหล่านักสูบด้วยการมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้มีประสิทธิภาพในการลดความอยากบุหรี่ได้โดยใช้ยา นิโคตินทดแทน และ บุหรี่ไฟฟ้า ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะให้ผู้สูบบุหรี่สามารถ ลาขาดจากบุหรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสในความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ได้มากยิ่งขึ้น
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้ยังไง
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ในการทดแทนบุหรี่จริง และเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักสูบที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยจัดการกับปัญหาในเรื่องของสารทาร์และคาร์บอนมอนอกไซด์ในบุหรี่ธรรมดาได้ ฉะนั้นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะได้รับเพียงแค่สารนิโคตินแบบปราศจากสารอันตรายที่มีอยู่ในบุหรี่ธรรมดาอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีงานวิจัยหลาย ๆ ตัวที่ออกมาสนับสนุนว่าการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้สามารถ เลิกบุหรี่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถึงแม้จะยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะปลอดภัย 100% แต่บุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ธรรมดาอย่างแน่นอน และที่สำคัญไปกว่านั้น โครงการ Don’ t Wait ยังได้แสดงให้เห็นอีกด้วยว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณเลิกสูบบุหรี่
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 20 นาที พบว่า อัตราการเต้นของชีพจรกลับมาปกติ
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 8 ชั่วโมง พบว่า ระดับออกซิเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์ ค่อย ๆ ปรับให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติ โดยออกซิเจนจะฟื้นตัวช้า ๆ ส่วน คาร์บอนมอนอกไซด์ จะลดลงไปถึงประมาณ 50%
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 48 ชั่วโมง พบว่า ร่างกายขับ คาร์บอนมอนอกไซด์ ออกไปจนหมด รวมถึงปอดและร่างกายจะเริ่มที่จะฟื้นฟูตัวเอง
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 72 ชั่วโมง พบว่า การหายใจเริ่มสะดวกขึ้นเนื่องจากการคลายตัวของหลอดลม
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 2-12 สัปดาห์ พบว่า ระบบไหลเวียนโลหิตค่อย ๆ เริ่มกลับมาเป็นปกติ
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผลการศึกษาพบว่านักสูบสามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 3-9 เดือน พบว่า อาการหายใจมีเสียงหวีด อาการไอ และปัญหาในเรื่องของระบบหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ
- หลังจากที่หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 ปี พบว่า ความเสี่ยงหัวใจวายลดลงได้ถึง 50% ของนักสูบที่ยังคงสูบบุหรี่มวนเป็นปกติ
- หลังจากที่ เลิกบุหรี่ เป็นเวลา 10 ปี พบว่า ความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดลดลงถึง 50% ของนักสูบที่ยังคงสูบบุหรี่มวนเป็นปกติ
และปัจจุบันโครงการ Don’ t Wait นี้ก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในประเทศอังกฤษ เพราะการที่คนหันมาใช้นิโคตินทางเลือกอย่าง บุหรี่ไฟฟ้า แทนที่จะเป็น บุหรี่มวนแบบปกติ นั้นสามารถลดการเสียชีวิตและการได้รับสารพิษจากบุหรี่ได้ดีกว่า และหวังว่าบ้านเราจะมีการมองบุหรี่ไฟฟ้าในมุมมองใหม่ ๆ แทนที่จะมองว่าเป็นสิ่งอันตราย อยากจะให้ลองมองถึงสิ่งที่บุหรี่ไฟฟ้าสามารถที่จะมาทดแทนและลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากบุหรี่จริงมากกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก /// https://www.gateshead.gov.uk/article/18717/Don-t-Wait-make-2021-the-year-you-quit-smoking-for-good